Dana Holding Corporation เดิมชื่อบริษัท Spicer ก่อตั้งโดย Clarence Spicer ในปีค.ศ. 1904  และบริษัทตั้งอยู่ในเมืองเพลนฟิลด์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในปี ค.ศ.1905 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทเป็นชื่อ Spicer Universal Joint Manufacturing Company Spicer  และในปี 1909 Spicer ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Spicer Manufacturing Company บริษัท Spicer ผลิตส่วนที่เป็นข้อต่อของเครื่องกลไกรถยนต์ Spicer ได้พัฒนาการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนวิธีการขับเคลื่อนรถยนต์ แม้บริษัทจะมีนวัตกรรมด้านรถยนต์และมีการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่บริษัท Spicer ก็ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่ยากลำบากในปี 1914 แต่เนื่องจากได้นักธุรกิจชื่อ Charles Dana มาเป็นผู้ลงทุนในบริษัทในขณะนั้นและด้วยการเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทำให้บริษัท Spicer กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งเนื่องจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง บริษัทได้ช่วยผลิตยานพาหนะทางทหารที่เรียกว่า Liberty Truck 



หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจบลงดาน่ายังคงมีอิทธิพลต่อการพัฒนาบริษัท บริษัท Spicer ได้ซื้อธุรกิจอื่นๆ ที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ รวมถึง Parish Pressed Steel Company, Salisbury Axle Company และ Brown-Lipe Gear Company ในปี1922 Spicer เปิดตัวสู่สาธารณะเป็นครั้งแรกโดยมีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และในช่วงปลายปี 1920 Dana ได้พิจารณาแล้วว่าบริษัทพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เขาย้ายสำนักงานใหญ่ของ Spicer ไปที่เมืองโทลีโด รัฐโอไฮโอในปี 1928 และอีกสองปีต่อมา Spicer ยังได้เริ่มขยายการดำเนินงานไปยังแคนาดา


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง Spicer Manufacturing Company ได้มีส่วนสนับสนุนการทำสงครามอีกครั้ง ในปี 1944 มีคนทำงานให้กับ Spicer เป็นจำนวนมากกว่าหมื่นคน ซึ่งในเวลานั้น Clarence Spicer ได้เสียชีวิตลงแล้ว ในปี 1946 บริษัท Spicer Manufacturing Company ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Dana Corporation โดยเปลี่ยนชื่อตามชายผู้มีส่วนสนับสนุนความสำเร็จของบริษัทอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมานั้นก็คือ Charles Dana


หลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่บริษัทก็ยังคงมีความเจริญรุ่งเรืองในช่วงหลายทศวรรษหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัทยังคงมีความเป็นผู้นำและซื้อธุรกิจอื่นๆที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น Perfect Circle Corporation ในปี 1963 และ Victor Gasket Manufacturing Companyในปี 1966 Dana ขายผลิตภัณฑ์ได้ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐครั้งแรกในปี 1974 และเพียงสี่ปีต่อมามีรายได้กว่าสองพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1987 ยอดขายประจำปีของ Dana เกินสี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


ในช่วงสองทศวรรษสุดท้ายของศตวรรษที่ 20 ดาน่าคอร์ปอเรชั่นยังคงขยายการดำเนินงานผ่านการเข้าซื้อกิจการ WIX Corporation of Gastonia, North Carolina กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Dana ในปี 1979 บริษัทซื้อบริษัทเยอรมัน Reinz-Dichtungs GmbH และ Hugo Reinz GmbH ในปี 1993 และ Plumley Companies, Inc. ของรัฐเทนเนสซีในปี 1995 ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 การเข้าซื้อกิจการ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นไปอีก รวมถึง Sealed Power Division ของ SPX Corporation, Clark-Hurth Components, แผนกเพลาและเบรกสำหรับการใช้งานหนักของ Eaton Corporation, Echlin, Glacier Vandervell Bearings Group และ AE Clevite ตั้งแต่ปี 2543 ดาน่าคอร์ปอเรชั่นได้รับรางวัลคุณภาพมากมายสำหรับการผลิต ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในส่วนอื่น ๆ ของโลกที่มีการดำเนินงานอยู่



Danaได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้ตรงตามความต้องการของทั้วโลกและมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าระดับโลก ในช่วงปี 2018 เป็นต้นไป Dana จึงได้ทุ่มเงินกว่า 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อเป็นการลงทุนด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและได้เริ่มเข้าซื้อกิจการจากบริษัท EV หลายแห่ง บริษัทแรกที่ Dana ได้ทำการซื้อในเดือนกรกฎาคมปี 2018 คือ บริษัท TM4 บริษัทนี้จำหน่ายมอเตอร์และอินเวอเตอร์ที่ช่วยส่งเสริมระบบ e-drive ของDanaและในปี 2019 Danaได้ซื้อกิจการ EV 3 บริษัทและเป็นหุ้นส่วนกับอีก1บริษัท ในเดือนมากราคม Dana ได้ซื้อบริษัท SME Group ที่มุ่งเน้นเรื่องมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับแรงดันต่ำและตัวควบคุม ต่อมาในเดือนมีนาคมได้ซื้อบริษัท Oerlikon Balzers บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านซอฟท์แวร์ของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ในเดือนเดียวกัน Dana ได้ตกลงเป็นหุ่นส่วนกับบริษัท Hyliion บริษัทผลิตระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่สามารถแทนที่ระบบดีเซลแบบเดิม และในเดือนสิงหาคม Dana ได้ซื้อบริษัท Nordsea บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านซอฟท์แวร์ของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่
 


หากท่านสนใจผลิตภัณฑ์จากแบรนด์Dana  ท่านสามารถคลิ๊กที่นี่เพื่อดูผลิตภัณฑ์หรือ   คลิ๊กเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม